ไตเป็นอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ มีสองข้างอยู่บริเวณด้านข้างของกระดูกสันหลังในช่องท้องส่วนล่าง ไตทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างในร่างกาย เช่น กรองเลือดเพื่อขับของเสียออกทางปัสสาวะ ควบคุมสมดุลอิเล็กโทรไลต์ รักษาความดันโลหิตให้คงที่ มีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง และเมตาบอลิซึมของกระดูก หากไตทำงานผิดปกติไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม อาจนำไปสู่ภาวะไตวาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและอาจถึงแก่ชีวิตได้
1, เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต
ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด ซึ่งโดยทั่วไปคือต่ำกว่า 130/80 มม.ปรอท และจำกัดปริมาณโซเดียมให้น้อยกว่า 2,300 mg ต่อวัน
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อป้องกันและชะลอภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน รวมถึงโรคไตวาย
ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์กำหนด ผู้ป่วยควรวางแผนการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเพื่อรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ป้องกันภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน
ควรเลิกสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่อาจทำลายไตให้แย่ลง
เพิ่มกิจกรรมทางกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เพื่อช่วยควบคุมความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
2, การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร
สำหรับผู้ป่วยโรคไตวาย การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมจะช่วยควบคุมความดันโลหิต น้ำหนักตัว คอเลสเตอรอล ระดับน้ำตาลในเลือด และชะลอการดำเนินของโรคได้
จำกัดการกินเกลือ: เกลือจะทำให้โรคไตเรื้อรังรุนแรงขึ้น การบริโภคเกลือมากเกินไปจะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ เพิ่มความดันในหลอดเลือดที่ไต ทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ผู้ป่วยโรคไตวายควรกินอาหารจืด ไม่เกิน 2-3 กรัมต่อวัน ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงควรจำกัดปริมาณเกลือให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
จำกัดการกินโปรตีน: ผู้ป่วยโรคไตวายควรจำกัดการบริโภคโปรตีน เนื่องจากการเผาผลาญโปรตีนในร่างกายจะสร้างสารพิษต่างๆ ซึ่งสารเหล่านี้จะถูกกรองผ่านไต ทำให้ไตทำงานหนักเกินไปและเกิดความเสียหาย ผู้ป่วยควรบริโภคโปรตีนจากพืช หรือโปรตีนที่มีปริมาณน้อยแต่ให้พลังงานสูงและมีคุณค่าทางชีวภาพสูง ในการปรุงอาหาร ผู้ป่วยควรจำกัดการใช้น้ำมัน และเน้นวิธีการต้มหรือนึ่ง
จำกัดการกินโพแทสเซียม: ระดับโพแทสเซียมในเลือดของผู้ป่วยโรคไตวายอาจสูงขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากและอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นได้ อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงที่ผู้ป่วยควรจำกัดการบริโภค ได้แก่ ถั่วเหลือง กล้วย องุ่น ผลไม้อบแห้ง ช็อกโกแลต ปลาแซลมอน เป็นต้น
จำกัดการกินฟอสฟอรัส: ปริมาณฟอสฟอรัสที่มากเกินไปในร่างกายอาจทำให้โรคไตวายรุนแรงขึ้น ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคกระดูก ผู้ป่วยควรจำกัดการบริโภคอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น เนยแข็ง หนังสัตว์ และเครื่องในสัตว์ เป็นต้น
อาหารที่ให้พลังงานสูง: ผู้ป่วยโรคไตวายควรรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปกติ และแบ่งอาหารออกเป็น 4-6 มื้อต่อวัน เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอจะทำให้การเผาผลาญของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป ร่างกายจะเผาผลาญไขมันและโปรตีนจากเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายผอมลง
ควบคุมปริมาณน้ำ: ควรตรวจสอบปริมาณน้ำที่เข้าสู่ร่างกายอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ต้องล้างไต หากยังคงปัสสาวะได้มาก (มากกว่า 1.2 ลิตรต่อวัน) ไม่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณน้ำ ให้ดื่มเมื่อรู้สึกกระหายน้ำ หากร่างกายกักเก็บน้ำไว้ ควรจำกัดการบริโภคเกลือ เพราะเมื่อรับประทานเกลือเข้าไปจะทำให้รู้สึกกระหายน้ำ ซึ่งอาจทำให้ควบคุมปริมาณน้ำได้ยากและรู้สึกกระหายน้ำตลอดเวลา
ผู้ป่วยโรคไตวายควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ เช่นเดียวกับคนทั่วไป
3, Neplus- โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ โภชนาการ เพื่อสุขภาพ
ช่วยให้สารอาหารและฟื้นฟูสุขภาพ: Neplus ให้สารอาหารครบถ้วน (1,000 กิโลแคลอรี/แก้ว) โดยมีอัตราส่วนไขมันและคาร์โบไฮเดรตที่สมดุล ส่วนผสมโปรตีนจาก whey และถั่วเหลือง รวมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น 17 ชนิด ช่วยให้ได้รับสารอาหารเพียงพอเพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว Neplus ใช้ระบบแป้งที่ดูดซับช้าเพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้คงที่ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดสำหรับผู้ป่วย…
นมน้ำเหลือง Neplus ได้ออกแบบให้เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดอีกด้วย ผู้ที่ไม่รู้วิธีเตรียมเมนูอาหารที่มีสารอาหารและโภชนาการที่เหมาะสมหลังการผ่าตัด เหมาะสำหรับใช้ทุกวัน นมผง Neplus ก็สามารถใช้กับผู้อื่นได้เช่นกัน สามารถใช้เป็นอาหารทดแทนได้ทุกวัน รองรับการทำงานของไต
