ไตวายเป็นภาวะผิดปกติที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีอาการเด่นชัด หากไม่ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้น อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง การสังเกตอาการของไตวายระยะเริ่มต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว ช่วยชะลอความรุนแรงและปกป้องคุณภาพชีวิตไม่ให้แย่ลง
1. ไตวายคืออะไร?
ไตวายคือภาวะที่การกรองของเสียในไตลดลง ทำให้สารพิษ น้ำ และของเสียต่างๆ ไม่ถูกขับออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อการทำงานของไตมีปัญหา สารตกค้างจะสะสมในร่างกาย ส่งผลต่อความสมดุลของกรด-ด่างและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท รวมถึงอวัยวะอื่นๆ
โรคไตวายแบ่งได้หลายระยะ โดยระยะเริ่มต้นมักตรวจพบยาก เนื่องจากอาการไม่เด่นชัด แต่หากสังเกตความผิดปกติบางอย่างในร่างกายได้ ผู้ป่วยจะมีโอกาสรับมือหรือตรวจพบเร็วขึ้น
2. สัญญาณเตือนไตวายระยะเริ่มต้น
2.1. นอนกรนเสียงดังและกรนนานผิดปกติ
ผู้ป่วยไตวายมักเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ทำให้เกิดอาการนอนกรนเสียงดังและต่อเนื่อง ปัญหานี้เกิดจากของเสียตกค้างในร่างกาย ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ
2.2. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
รู้สึกเหนื่อยล้า ขาดพลังงาน เป็นอาการที่พบบ่อย เพราะเมื่อไตเสื่อม การสร้างฮอร์โมน erythropoietin ลดลง ทำให้ร่างกายขาดเลือด ส่งผลให้รู้สึกอ่อนเพลียและสมาธิลดลง
2.3. ผิวหนังเป็นผื่นคัน/แห้ง/หมองคล้ำ
ของเสียที่ขับออกไม่หมดจะสะสมที่ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการคัน มีผื่น ผิวแห้งและหมองคล้ำ บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นโรคผิวหนังทั่วไป ทั้งที่จริงเกี่ยวข้องกับไต
2.4. ปวดหลัง
ปวดหลังแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะบริเวณเอวด้านข้าง สองฝั่งด้านหลัง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณระวัง อาการนี้มักไม่มีสาเหตุชัดเจน และจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามความรุนแรงของโรค
2.5. หายใจลำบาก
เมื่อไตสูญเสียการทำงาน ของเหลวอาจสะสมในปอด ส่งผลให้เกิดอาการหายใจติดขัด รู้สึกเหนื่อยง่าย นอกจากนี้ภาวะโลหิตจางจากไตวายจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยลง จึงมีอาการหอบเหนื่อยตามมา
2.6. ลมหายใจมีกลิ่นผิดปกติ
หากไตไม่สามารถกรองยูเรียและสารพิษออกได้ดี กลิ่นลมหายใจอาจคล้ายกลิ่นฉี่ หรือมีกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์
2.7. บวมที่แขนขา
ไตที่ไม่สามารถขจัดเกลือและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายได้ จะก่อให้เกิดอาการบวมตามมือ เท้า ข้อเท้า โดยอาการบวมจะเห็นได้ชัดช่วงเช้าหลังตื่นนอน
2.8. ปัสสาวะผิดปกติ
ผู้ป่วยไตวายระยะต้นมักพบการเปลี่ยนแปลงของการขับถ่ายปัสสาวะ ได้แก่:
- ปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน
- ปัสสาวะเป็นฟอง หรือมีเลือดปน
- ปริมาณปัสสาวะลดลงเรื่อยๆ
อาการเหล่านี้สะท้อนถึงความผิดปกติในการกรองสารและขับของเสียของไต
3. วิธีป้องกันโรคไตวาย
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไตวายและชะลอความรุนแรงของโรค คุณสามารถดูแลตนเองด้วยวิธีต่อไปนี้:
- รักษาวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ: รับประทานอาหารรสจืด ลดอาหารทอด เหล้า เบียร์ และงดสูบบุหรี่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ: โดยปกติประมาณ5 – 2 ลิตรต่อวัน (เว้นแต่แพทย์สั่งให้จำกัด)
- ควบคุมความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: เพราะทั้งสองอย่างเป็นสาเหตุสำคัญของไตวาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ช่วยเสริมการไหลเวียนของเลือดและบำรุงสุขภาพหัวใจ-ไต
- ตรวจสุขภาพประจำปี: โดยเฉพาะหากมีประวัติเบาหวาน ความดันสูง หรือคนในครอบครัวเป็นโรคไต
4. นมสำหรับผู้ป่วยไต Nepro – โภชนาการเฉพาะทางเพื่อผู้ป่วยไต
นอกจากการควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมแล้ว ผู้ป่วยไตวายสามารถเสริมโภชนาการด้วย Nepro นมสำหรับผู้ป่วยไตโดยเฉพาะ โดย Nepro มีคุณสมบัติโดดเด่นดังนี้
- ปริมาณโซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนต่ำ เพื่อลดภาระการทำงานของไต
- เสริมคอลอสตรุม นำเข้าจากอเมริกา และถั่งเช่าทิเบต เพิ่มภูมิคุ้มกันและดูแลสุขภาพโดยรวม
- ใช้ Isomalt เป็นน้ำตาลสูตรพิเศษ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีโรคไตร่วมด้วย
- มี DHA, EFA, Coenzyme Q10 ช่วยบำรุงหัวใจ สมอง และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย
Nepro สามารถใช้แทนอาหารว่าง หรือดื่มเสริมหลังมื้อหลัก เพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยไต ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
การสังเกตอาการไตวายระยะเริ่มต้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาและป้องกันโรค หากดูแลสุขภาพด้วยวิถีชีวิตที่ดี ร่วมกับโภชนาการเฉพาะทางเช่นนมสำหรับผู้ป่วยไต Nepro จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
